ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
หมวดหมู่สินค้า: สินค้า
ทะเบียนยาเลขที่ G252/60 ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ R.F.I. Relleve Flafulence Indigestion สรรพคุณ : ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขนาดรับประทาน : รับประทานครั้งละ 2-3 แคปซุล วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร เช้า –กลางวัน – เย็น
ราคา 550.00 บาท

10 พฤศจิกายน 2566

ผู้ชม 240 ผู้ชม

ส่วนประกอบ     ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ(R.F.I)  

     ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย  ขมิ้นผง 120 มก. ผงขิง 120 มก.ผงกล้วย 50 มก. กระพังโหม 50 มก.และส่วนสำคัญอื่นอีก

-โดยขมิ้นชัน มีคุณสมบัติ รักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ โรคกระเพาะอาหาร อาหารไม่ย่อย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ท้องร่วง เป็นบิด

- ขิง มีคุณสมบัติ ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน สาระสำคัญของขิงมีฤทธิ์กระตุ้นกระเพาะอาหารและลำไส้

- ผงกล้วย มีคุณสมบัติ แก้ท้องร่วง  ช่วยสมานแผลในลำไส้และกระเพาะอาหาร คุมธาตุ

- ส่วนประกอบอื่น เช่น มะตูม ช่วยขับลมแก้โรคกระเพาะอาหาร เป็นต้น

ข้อบ่งใช้

     ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ(R.F.I))  ใช้สำหรับบรรเทาอาการแสบร้อนบริเวณยอดอก อาหารไม่ย่อยอันเกิดจากภาวะน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร(Reflux) หรือหลอดอาหารอักเสบ เรียกว่า กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease:GERD)                                                                                          

     อาการกรดไหลย้อน

- มักแสบร้อนหน้าอก ซึ่งจะเป็นมากเมื่อรับประทานอาหารมื้อหนัก การโน้มตัวไปข้างหน้า การยกของหนัก การนอนหงาย

- มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก

- ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร

- เจ็บหน้าอก จุก คล้ายมีอะไรมาขวางคอ

- เกิด หอบ หืด ไอแห้ง เสียงแหบ เจ็บคอ อาการเหล่านี้เกิดจากกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณกล่องเสียง ทำให้กล่องเสียงอักเสบ

     สาเหตุ 

- จากความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหาร ที่ทำหน้าที่ป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารที่มีความดันหูรูดต่ำ หรือเปิดบ่อยกว่าปกติ  ซึ่งมีสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาหอบหืด

- ความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะนานกว่าปกติ ทำให้เพิ่มโอกาสการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารสู่หลอดอาหารมากขึ้น อาหารประเภทไขมันสูง ช็อกโกแลต จะทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง *(ข้อมูลจากเว็บไซด์ รพ.บำรุงราษฎร์)

     ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ(R.F.I)  ใช้บรรเทาอาการ แน่นท้อง จุกเสียด อันเกิดจากการมีลมในทางเดินอาหารมากไป หรือร่างกายบางคนอาจสร้างก๊าซมากกว่าคนอื่นๆ หรือเกิดจาก อาการอาหารไม่ย่อย หรือ มีเชื้อแบคทีเรียในลำไส้มากไป หรือลำไส้เคลื่อนไหวน้อยกว่าปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน/ กินอาหารมันๆมาก กินอาหารมีกากมาก หรือลำไส้ไวต่อการกระตุ้น ทำให้เกิดการเกร็งลำไส้ spasm หรือบางคนพยายามที่จะเรอเอาลมออก แต่การกระทำดังกล่าวกลับทำให้ลมเพิ่มมากขึ้นทำให้แน่นท้อง หรือเกิดจากการสะสมก๊าซในลำไส้ใหญ่ข้างซ้าย จึงทำให้เกิดการปวดท้องเหมือนกับโรคหัวใจ หรือการดื่มน้ำอัดลมปริมาณมากๆ

     ขนาดรับประทาน

     เด็กอายุมากกว่า 12 ปี ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ รับประทานครั้งละ 2-3 แคปซูล วันละ 3 เวลา หลังอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น หากมีอาการมากหรือเรื้อรังมานาน ควรรับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 เวลา หลังอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น-ก่อนนอน หรือ ตามแพทย์สั่ง

     การรับประทานยาที่ถูกต้อง

-อาการลมจุกเสียด แน่นในท้อง ทานทันทีที่มีอาการ

-หากต้องการให้ช่วยย่อยอาหาร ทานทันทีหลังเสร็จมื้ออาหาร

- อาการกรดไหลย้อน ให้ฉีกแคปซูลยา 2-3 แคปซูล ละลายยาผง ในน้ำอุ่น คนให้เข้ากันแล้วดื่ม จะเห็นผลภายใน20-30 นาที

-กรณีเป็นแผลในกระเพาะ หรือ ลำไส้เรื้อรัง ทานครั้งละ 2-3 แคปซูล 4 เวลา ทานติดต่อกันอย่างน้อย15 วัน ร่วมกับ การงด ชา/กาแฟ/ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ /และอาหาร รสเผ็ด ร้อนทุกชนิด จึงจะเห็นผล

     อาการข้างเคียง

อาจมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน หรือ เรอมีกลิ่นมะตูมอ่อนๆ และอาจมีอาการท้องผูกบ้างเนื่องจากมีส่วนผสมของ ผงกล้วย

     คำเตือน

1.ห้ามรับประทานในคนที่แพ้ส่วนประกอบของยานี้

2.อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกบ้างในบางราย ในระยะแรกๆ

3.เด็กต่ำกว่า 6 ขวบ และสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

4.หากเกิดอาการผื่นแดง ระคายเคือง บวม ให้หยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ทันที

     การเก็บรักษา

เก็บให้พ้นจากมือเด็ก  เก็บในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส ห้ามใช้     ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ(R.F.I)  หลังวันหมดอายุ (ดู Exp. วัน/เดือน/ปี)

     คำแนะนำ

โรคกรดไหลย้อน จุกเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก สามารถรักษาได้ โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ดังนี้

- ระวังน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไป หรือ อ้วน

- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม อาหารเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด อาหารไขมันสูง ช็อกโกแลต

- หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา การสูบบุหรี่

- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อเย็นในปริมาณมาก ที่สำคัญไม่ควรนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร ควรให้เวลาผ่านไปอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

- ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูป หรือรัดเข็มขัดแน่นเกินไป

- ควรรับประทานอาหารปริมาณน้อย แต่บ่อยครั้ง

- ควรปรับหมอน หรือ ท่านอนที่ทำให้ศีรษะสูงขึ้นอย่างน้อย 6 นิ้ว

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

- หลีกเลี่ยง ความเครียด

     แนวทางในการรักษา

-การใช้ยารับประทาน เช่น     ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ(R.F.I)  ยาลดกรด ลดกรด ยาเคลือบกระเพาะอาหาร ยารักษาแผลในกระเพาะอาหาร

-การผ่าตัด กรณีที่ผู้ป่วยรักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล *(ข้อมูลจากเว็บไซด์ รพ.บำรุงราษฎร์)